ทุกวันนี้ การจัดเก็บไฟล์ส่วนตัวในคลาวด์กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับใครหลายๆ คน แต่การใช้บริการคลาวด์สาธารณะอาจทำให้คุณคิดถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีที่ปลอดภัยและคุ้มค่าในการสร้างคลาวด์ส่วนบุคคลของคุณเอง บทความนี้จะช่วยแนะนำการติดตั้ง NextCloud บน Raspberry Pi อย่างง่ายดาย
NextCloud คืออะไร?
NextCloud เป็นแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สที่ให้คุณสร้างเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ส่วนตัวได้ ตัวแพลตฟอร์มทำหน้าที่เป็นคลาวด์ที่คล้ายกับ Google Drive หรือ Dropbox แต่คุณสามารถควบคุมและจัดการได้ทั้งหมดเอง ซึ่งมันจะโฮสต์บนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ของคุณเองได้ แต่นี่คือข้อดี ถ้าคุณมี Raspberry Pi เครื่องหนึ่งอยู่ที่บ้าน นั่นคือฐานที่ดีที่ควรเริ่มต้น
เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
คุณจะต้องมี Raspberry Pi (รุ่นใดก็ได้ แต่แนะนำเป็น Raspberry Pi 4 สำหรับประสิทธิภาพที่ดี), การ์ด microSD ที่มีความจุอย่างน้อย 16GB, และแหล่งจ่ายไฟที่เหมาะสม นอกจากนี้ คุณยังต้องการคอมพิวเตอร์ที่สามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการลงบนการ์ด SD ได้ และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เพียงพอ
ติดตั้งระบบปฏิบัติการบน Raspberry Pi
เริ่มจากการดาวน์โหลดและติดตั้ง Raspberry Pi OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้น คุณสามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://www.raspberrypi.org/software/ หลังจากดาวน์โหลดเสร็จสิ้น ใช้เครื่องมือเช่น Balena Etcher เพื่อแฟลชระบบปฏิบัติการลงบนการ์ด SD ของคุณ
เมื่อการแฟลชเสร็จสมบูรณ์ ใส่การ์ด SD เข้าไปใน Raspberry Pi แล้วเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟระบบจะบูตอัตโนมัติ เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อย ให้เปิดใช้งาน SSH เพื่อคุณสามารถเชื่อมต่อจากระยะไกลได้
ติดตั้ง Apache และ PHP
NextCloud จำเป็นต้องใช้เว็บเซิร์ฟเวอร์และ PHP ในการทำงาน ดังนั้นเราจะติดตั้ง Apache ซึ่งเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่นิยมใช้และรันคำสั่ง:
sudo apt update
sudo apt install apache2 php libapache2-mod-php -y
หลังจากติดตั้งเสร็จ สมควรรัน Apache เพื่อให้มั่นใจว่าใช้งานได้ ด้วยคำสั่ง sudo systemctl start apache2
และตรวจสอบสถานะการทำงานของ Apache ด้วยคำสั่ง sudo systemctl status apache2
ติดตั้งฐานข้อมูล
ถัดไปคือการติดตั้ง MariaDB ซึ่งเป็นระบบจัดการฐานข้อมูลเชื่อถือได้ รันคำสั่งต่อไปนี้:
sudo apt install mariadb-server mariadb-client -y
จากนั้นเริ่มการทำงานของ MariaDB และตั้งค่าเริ่มต้นด้วยคำสั่ง sudo mysql_secure_installation
ขั้นตอนนี้คุณจะถูกถามให้ตั้งค่ารหัสผ่าน root และการกำหนดค่าความปลอดภัยอื่นๆ
ติดตั้ง NextCloud
ดาวน์โหลด NextCloud รุ่นล่าสุดจากเว็บไซต์ NextCloud คุณสามารถใช้คำสั่ง wget ในการดาวน์โหลดโดยตรงเข้า Raspberry Pi ของคุณ:
wget https://download.nextcloud.com/server/releases/nextcloud-XX.X.X.tar.bz2
จากนั้น ทำการแตกไฟล์ด้วยคำสั่ง:
tar -xjf nextcloud-XX.X.X.tar.bz2
ย้ายโฟลเดอร์ NextCloud ไปยังไดเรกทอรีที่เหมาะสมของเว็บเซิร์ฟเวอร์:
sudo mv nextcloud /var/www/html/
การตั้งค่าการเข้าถึงไฟล์และสิทธิ์
ให้สิทธิ์การเข้าถึงสำหรับโฟลเดอร์ NextCloud โดยการปรับเปลี่ยนสิทธิ์ เพื่อให้ Apache สามารถใช้งานได้:
sudo chown www-data:www-data /var/www/html/nextcloud/ -R
sudo chmod 750 /var/www/html/nextcloud/ -R
การตั้งค่าเว็บเซิร์ฟเวอร์สำหรับ NextCloud
สร้างไฟล์ Config ใหม่ใน Apache เพื่อกำหนดค่าเส้นทางของ NextCloud:
sudo nano /etc/apache2/sites-available/nextcloud.conf
เพิ่มข้อมูลการตั้งค่าเบื้องต้น:
<VirtualHost *:80>
DocumentRoot /var/www/html/nextcloud/
ServerName YOUR_SERVER_IP
</VirtualHost>
เปิดใช้งานกำหนดค่าและ Apache rewrite module:
sudo a2ensite nextcloud.conf
sudo a2enmod rewrite
sudo systemctl restart apache2
การติดตั้งผ่านเบราว์เซอร์
เข้าสู่เบราว์เซอร์และพิมพ์ IP ของเซิร์ฟเวอร์ Raspberry Pi ของคุณ กรอกข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นในหน้าเว็บของ NextCloud สำหรับการสร้างฐานข้อมูลและตั้งค่าผู้ใช้ ซึ่งจะทำให้การติดตั้งเสร็จสมบูรณ์
ความคิดเห็นและข้อแนะนำ
ถือว่าเป็นการติดตั้ง NextCloud ที่ค่อนข้างง่ายแต่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มปริมาณข้อมูลที่สามารถเก็บได้นั้นจะขึ้นอยู่กับความจุของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกหรือเครือข่ายที่ติดตั้งร่วมด้วยอย่างเหมาะสม
การเพิ่มความปลอดภัย
เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คุณสามารถติดตั้ง SSL certificate โดยใช้ Let’s Encrypt เพื่อลดความเสี่ยงในการเชื่อมต่อผ่าน HTTP และทำให้บริการของคุณนั้นปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้ การปรับแต่งตั้งค่าสำหรับใบรับรอง SSL คุณสามารถอ้างอิงจาก Let’s Encrypt เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับการสนทนาในระดับ HTTPs
สรุป
โดยรวมแล้ว NextCloud บน Raspberry Pi เป็นโซลูชั่นที่ยอดเยี่ยมสำหรับคลาวด์ส่วนบุคคล ที่มีต้นทุนต่ำและสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงแต่คุณจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย คลาวด์ส่วนตัวเช่นนี้ยังสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคลและการใช้งานที่หลากหลาย